[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.5
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
-
พยากรณ์อากาศ
 
ค้นหาจาก google


  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
ย้อนเหตุการณ์ ชเว ซุก-ฮยอน นักไตรกีฬาโสมขาว ถูก บูลลี่ จนฆ่าตัวตาย   VIEW : 1450    
โดย คุกกี้

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 51
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 5
Exp : 76%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 171.4.235.xxx

 
เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 13 เดือน สิงหาคม พ.ศ.2563 เวลา 20:40:24    ปักหมุดและแบ่งปัน

จากข่าวที่ "โก ยู-มิน" นักตบสาวทีม "ฮุนได ฮิลล์สเตท" ปลิดชีวิตตัวเอง เพราะทนแรงกดดันไม่ไหว ก่อนหน้านี้ "ชเว ซุก-ฮยอน" นักไตรกีฬา ต้องโดน "บูลลี่" จนจากโลกนี้ ก่อนหน้าเหตุการณ์นี้แค่ 1 เดือน 

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน "ชเว ซุก-ฮยอน" นักไตรกีฬาสาวดีกรีเยาวชนทีมชาติ วัย 22 ปี ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ด้วยการกระโดดตึกลงมาจากหอพักในเมืองปูซาน ก่อนเธอจะตัดสินใจเช่นนั้น เธอได้ส่งข้อความไปหาคุณแม่ขอให้ช่วยเปิดโปงความจริงที่เธอโดนกระทำ "ผู้ที่กระทำกับเธอต้องได้รับกรรมอย่างสาสม" ก่อนที่จะทิ้งสมุดบันทึกและไฟล์เสียงเป็นจำนวนมาก หลังจากวันนั้น เรื่องราวของเธอจึงเริ่มถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน

ชเว ซุก ฮยอน เป็นนักไตรกีฬาอนาคตไกลของประเทศ ผลงานของเธอถือเป็นที่จับตามองอย่างมาก หลังคว้าเหรียญทองแดงในศึกเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ปี 2015 และอันดับ 4 ไตรกีฬาชิงแชมป์ประเทศเกาหลีใต้ ในปี 2016 แต่แล้วจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของเธอ คือการได้เข้าเป็นสมาชิกชมรมไตรกีฬาระดับแถวหน้าของประเทศอย่าง "กวางจู ซิตี้ฮอลล์" ที่มี "จาง ยุน-จุง" นักไตรกีฬามือ 1 ของประเทศเป็นสมาชิกอยู่ อนาคตเธอเหมือนจะไปได้ดี หากมองเช่นนั้น แต่เธอกลับต้องเผชิญกับความทรมานแสนสาหัส 

สมาชิกในทีม ไม่ค่อยปลาบปลื้มเธอเท่าไรนัก อาจเป็นด้วยเหตุผลความอิจฉาริษยา หรือเพราะอะไรก็ตาม แต่ตลอดระยะเวลาที่เธออยู่ในชมรม เธอถูก "บูลลี่" และแบ่งแยกจากคนในชมรมมาโดยตลอด โดยเฉพาะจาก "จาง ยุน-จุง" นักกีฬารุ่นพี่ แกนนำผู้ไม่ยอมให้ใครโดดเด่นกว่า, "คิม กิว-บอง" เฮดโค้ชผู้ซึ่งไม่เคยอยู่ข้างเธอ และทำร้ายเธอให้เจ็บทั้งกายและใจ รวมถึงนักกีฬารุ่นพี่คนอื่นๆ แม้แต่หมอและแพทย์ประจำทีม ก็มองเธอเหมือนตัวประหลาด 

สุดท้ายเธอทนไม่ไหว ตัดสินใจกลับไปพักใจที่บ้านเกิด หลังผลงานตกลงในปี 2018 ก่อนที่ในช่วงปี 2019 เธอตัดสินใจเขียนบันทึกที่บอกว่า "ฉันตัดสินใจกลับมาซ้อมอีกครั้ง ฉันทำได้ ลุย"

แต่ทุกอย่างกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด เพราะเธอยังคงโดนคนในทีมทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างต่อเนื่อง และนี่คือส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ที่ถูกเปิดเผยผ่านสื่อ ที่เธอต้องเผชิญมาโดยตลอด

1. ในปี 2017 เธอได้ออกจากที่พักโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อ "โค้ชคิม" ทราบเรื่องจึงเรียกพ่อแม่ของเธอไปหา พร้อมทั้งบังคับให้แม่ของเธอ ตบลูกสาวของตัวเอง ต่อหน้าโค้ช เพื่อให้เธอรู้สึกสำนึกผิด แต่เหตุการณ์ยังไม่จบ เมื่อโค้ชตบเธอต่อหน้าแม่ของเธออย่างแรง ทำเอาทั้งครอบครัวตกใจกับสิ่งที่ได้เจอ 

2. หนึ่งในข้อความบันทึกเสียงของเธอ เล่าเหตุการณ์ที่มีเสียงของผู้ชายพูดว่า เธอ มานี่ซิ แล้วตะโกนเสียงดัง กัดฟัน!! ก่อนตามมาด้วยเสียงตบที่ดังต่อเนื่อง และสั่งให้เธอห้ามรับประทานอาหาร 3 วัน เพื่อลดน้ำหนัก 

3. มีครั้งหนึ่ง ที่เธอเผลอรับประทานลูกพีช โค้ชคิมได้เอารองเท้าตบหน้าเธอ และสั่งให้ทีมสตาฟฟ์ไปซื้อขนมปังในราคา 5,200 บาท โดยบังคับให้เธอรับประทานให้หมด จนเธออาเจียนออกมาในที่สุด เพราะร่างกายรับไม่ไหว

4. มีบันทึกเสียง เปิดเผยว่า มีเสียงผู้ชายเรียกเธอว่า "ไอ้ไร้สติ และเธอมีปัญหาทางจิตนะ" 

ในเดือนเมษายน 2020 เธอรับไม่ไหวตัดสินใจยื่นเรื่องกับคณะกรรมการโอลิมปิกเกาหลีใต้ เพื่อหวังทวงความยุติธรรม แต่สุดท้ายเรื่องราวก็เงียบหายไป  

ทั้งหมดเป็นที่มาที่ทำให้เธอตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในที่สุด

หลังการจากไปของเธอ เรื่องราวทั้งหมดถูกเปิดเผยสู่สาธารณชน มีการตั้งเจ้าหน้าที่สอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น อีกทั้งประธานาธิบดี "มุน แจ-อิน" เป็นผู้สั่งการให้สอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

หลังเหตุการณ์เกิดขึ้น สิ่งที่ "โค้ชคิม" แถลงการณ์มีเพียงคำว่า "เราขอแสดงความเสียใจกับเธอ แต่เรายืนยันว่าไม่เคยทำร้ายเธอ"

ในเดือนเมษายน 2020 เธอรับไม่ไหวตัดสินใจยื่นเรื่องกับคณะกรรมการโอลิมปิกเกาหลีใต้ เพื่อหวังทวงความยุติธรรม แต่สุดท้ายเรื่องราวก็เงียบหายไป  

ทั้งหมดเป็นที่มาที่ทำให้เธอตัดสินใจจบชีวิตตัวเองในที่สุด

หลังการจากไปของเธอ เรื่องราวทั้งหมดถูกเปิดเผยสู่สาธารณชน มีการตั้งเจ้าหน้าที่สอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น อีกทั้งประธานาธิบดี "มุน แจ-อิน" เป็นผู้สั่งการให้สอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

หลังเหตุการณ์เกิดขึ้น สิ่งที่ "โค้ชคิม" แถลงการณ์มีเพียงคำว่า "เราขอแสดงความเสียใจกับเธอ แต่เรายืนยันว่าไม่เคยทำร้ายเธอ"

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว แวดวงกีฬา เทรนใหม่ๆ ได้ที่ encinohomes4sale.com